เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 9.00 น. – 13.00 น. ณ ห้องพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมการเกษตร สำนักพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีพิธีเปิดการเสวนาด้านบริหาร วิชาการ วิจัย และนวัตกรรม ระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมี ดร. จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง อาทิ ดร. ดำรงค์ ศรีพระราม รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความเป็นกลางทางคาร์บอน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นุชนาถ มั่งคั่ง รองอธิการบดีฝ่ายการเงินและบริหารทรัพย์สิน รองศาสตราจารย์ ดร. ชัชพล ชังชู รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพและระบบฐานข้อมูล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธานินทร์ คงศิลา รองอธิการบดีฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และยุทธศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร. อนันต์ ผลเพิ่ม รองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. กฤษณ์ วันอินทร์ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและพันธกิจเพื่อสังคม รองศาสตราจารย์ ดร. สมหวัง ขันตยานุวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาวิทยาศาสตร์สุขภาพและเขตพื้นที่สุพรรณบุรี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วัชรพงษ์ อินทรวงศ์ รองอธิการบดีวิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนครรวมถึง รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี คณบดี รองคณบดี ผู้บริหารคณาจารย์และบุคลากรจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ..
ในโอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงจากมหาวิทยาลัยมหิดล เดินทางเยือนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อร่วมการเสวนาอย่างเป็นทางการ
..
พิธีเปิดการเสวนา เริ่มต้นด้วยการกล่าวต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก ดร. จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และการนำเสนอวิสัยทัศน์ในการบริหารงานมหาวิทยาลัย ตามด้วยการกล่าวขอบคุณและวิสัยทัศน์จาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร. ครศร ศรีกุลนาถ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัยและความเป็นสากล เป็นผู้ดำเนินรายการ
..
วิสัยทัศน์ของ ดร. จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ ภายใต้หลักการ "ศาสตร์แห่งแผ่นดิน" โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาความเป็นเลิศทางวิชาการ ผ่านการออกแบบอนาคตสู่ศตวรรษที่ 9 แห่งความยั่งยืนกับ NEW 9 S-Curve ในการขับเคลื่อนนวัตกรรม และส่งเสริมความยั่งยืน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อประเทศไทยและประชาคมโลก มหาวิทยาลัยมุ่งเป็นผู้นำด้านเวชศาสตร์การเกษตร ชีวนวัตกรรม และเทคโนโลยีสุขภาพดิจิทัล ด้วยการผสานศาสตร์สุขภาพเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย มหาวิทยาลัยตอบโจทย์ความท้าทายในด้านความมั่นคงทางอาหาร ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ โดยริเริ่มโครงการพัฒนาอาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และเกษตรกรรมยั่งยืนเพื่อประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง
..
การศึกษาเป็นหัวใจสำคัญในกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัย โดยให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ที่ปรับให้เหมาะสมกับผู้เรียนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเตรียมความพร้อมให้นิสิตมีทักษะสำหรับอนาคต ผ่านการเรียนแบบผสมผสาน (Hybrid) ประสบการณ์การเรียนรู้ในที่ทำงาน และโครงการแลกเปลี่ยนนานาชาติ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังมุ่งเน้นการผสานการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ในทุกระบบการดำเนินงาน โดยมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี เช่น บล็อกเชน อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และเทคโนโลยีเสมือนจริงสำหรับการเกษตร การแพทย์ และการศึกษา
..
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ โดยมุ่งส่งเสริมพลังงานสะอาด การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการปฏิบัติที่ยั่งยืน โครงการสำคัญ เช่น การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2578 และการนำใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น Solar Rooftop และรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) มาใช้ในพื้นที่มหาวิทยาลัยทั้งหมด ความร่วมมือระดับโลกเป็นหนึ่งในแนวทางหลักของมหาวิทยาลัย โดยมีการทำงานร่วมกับสถาบันกว่า 466 แห่งใน 6 ทวีป มหาวิทยาลัยสนับสนุนเครือข่ายวิจัย การแลกเปลี่ยนนิสิต และโครงการร่วมกับสถาบันชั้นนำระดับโลก เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าและนวัตกรรม
..
ด้วยการส่งเสริมนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยแปลงองค์ความรู้เพื่อประยุกต์ใช้ในโลกจริงที่สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม โครงการต่าง ๆ เช่น KU Business Talent และบริษัท KUniverse จำกัด ช่วยให้นิสิต นักวิจัย และผู้ประกอบการสามารถแปลงงานวิจัยและทรัพย์สินทางปัญญาให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่พร้อมเข้าสู่ตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พร้อมเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน นวัตกรรม และความร่วมมือระดับโลก เพื่อสร้างผลกระทบที่ดีและยั่งยืนสำหรับคนรุ่นถัดไป
..
วิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล
มหาวิทยาลัยมหิดลมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน 100 มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก โดยกำหนดแผนยุทธศาสตร์เพื่อความเป็นเลิศด้านการวิจัย การศึกษา และนวัตกรรม พร้อมสร้างคุณูปการสำคัญต่อสังคมและความยั่งยืน มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นการวิจัยที่มีผลกระทบระดับโลก เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายของสังคมผ่านนวัตกรรมแบบบูรณาการและความร่วมมือระดับนานาชาติ งานวิจัยสำคัญในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น การแพทย์เชิงป้องกันและวิถีชีวิต อาหารฟังก์ชันเพื่อสุขภาพ (Functional Foods) ผลิตภัณฑ์ชีวเภสัชภัณฑ์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ล้ำสมัย มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาวะในทุกช่วงวัย
..
ในด้านการศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดลให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพผู้เรียนผ่านประสบการณ์การเรียนรู้ที่ปรับให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้ที่มีนวัตกรรมและยืดหยุ่น หลักสูตรได้รับการปรับปรุงเพื่อตอบสนองความต้องการของแรงงานในอนาคต เช่น ทักษะด้านปัญญาประดิษฐ์ ความยั่งยืน และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การเรียนรู้ที่ผสมผสานระหว่างห้องเรียน อุตสาหกรรม และระบบออนไลน์ช่วยให้นิสิตได้รับทักษะที่ใช้ได้จริงและมุมมองระดับสากล
..
มหาวิทยาลัยยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ โดยยึดถือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยโครงการต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ มหาวิทยาลัยสีเขียว และการใช้พลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชาญฉลาด รวมถึงบูรณาการแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนในทุกคณะ และเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะให้กับสังคม
..
ความร่วมมือระดับโลกเป็นหัวใจสำคัญของภารกิจมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดลมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา องค์กรภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อขยายผลกระทบทางวิชาการและงานวิจัยของมหาวิทยาลัย เครือข่ายความร่วมมือนี้ช่วยเร่งความก้าวหน้าในด้านนโยบายสาธารณะ ผลิตภาพทางเศรษฐกิจ และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
..
มหาวิทยาลัยมหิดลยังให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในการบริหารงานและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยผนวกการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลและความยั่งยืนเข้าสู่แนวปฏิบัติ มหาวิทยาลัยได้ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ทันสมัย ใช้มาตรฐานระดับสากล และส่งเสริมความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของบุคลากรและนักศึกษา ด้วยความมุ่งมั่นในนวัตกรรม การเพิ่มศักยภาพผู้เรียน และความยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดลจึงพร้อมที่จะเป็นผู้นำระดับโลกด้านการศึกษาและการวิจัย เพื่อสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนต่อโลกใบนี้
..
หลังจากพิธีเปิดและการนำเสนอวิสัยทัศน์ในการบริหารงานมหาวิทยาลัยของอธิการบดีจากทั้งสองมหาวิทยาลัยแล้ว ได้เข้าสู่กลุ่มย่อยของการเสวนาด้านบริหาร วิชาการ วิจัย และนวัตกรรม ระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
..
วัตถุประสงค์ของกิจกรรมการเสวนา การเสวนาครั้งนี้มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ เปิดมุมมองใหม่ ๆ และสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในด้านการวิจัยและนวัตกรรม โดยมีหัวข้อเสวนาสำคัญ 5 กลุ่ม ได้แก่
1. ภาพรวมความร่วมมือ KU & MU
2. กลุ่มวิจัย นวัตกรรมและความเป็นสากล
3. กลุ่มบริหารและสนับสนุนพันธกิจ
4. กลุ่มแพทยศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ และเภสัชศาสตร์
5. Carbon Neutrality และเทคโนโลยีสะอาด
..
ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูง คณาจารย์ และบุคลากรจากทั้งสองมหาวิทยาลัย ที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ และระดมสมองร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปและแนวทางดำเนินงานในอนาคต
..