Exchange Program Fall 2023 (September 2023 - February 2024), Shinshu University, Japan
มหาวิทยาลัยชินชู
มหาวิทยาลัยชินชูนั้นมีอยู่หลายวิทยาเขต
แต่วิทยาเขตที่นักเรียนแลกเปลี่ยนไป (ในมัตสิโมโต้ นากาโน่) จะมีคณะแพทย์ และมีโรงพยาบาลชินชูอยู่ข้างวิทยาเขตด้วย
ข้างในวิทยาเขตมีสระว่ายน้ำ (ปิดในฤดูหนาว) โรงยิม (สามารถเข้าไปใช้ได้ฟรี
และเข้าร่วมกิจกรรมกับนักเรียนคนอื่น ๆ ได้ แต่ต้องมีรองเท้าสะอาดสำหรับโรงยิม
มีขมรมบาสเกตบอล ปิงปอง ฯลฯ) โรงอาหาร (เป็นสถานที่ที่ขายอาหารราคาถูกที่สุดในละแวกนี้
อาหารที่คุ้มที่สุดคือข้าวราดแกงกะหรี่ ราคาประมาณ 300-400 เยน และมีอาหารอื่น ๆ ในราคาใกล้เคียงกัน
จะพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องอาหารในหัวข้อ สถานที่พักนักศึกษา)
มีตึกของแต่ละคณะที่อยู่ไม่ไกลกันมาก มีคณะวิทยาศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะแพทย์ และคณะมนุษยศาสตร์โดยมหาวิทยาลัยจะอยู่ไม่ไกลจากหอพักนักศึกษา หากเดินจากหอพักควรเผื่อเวลาเดินประมาณ 15-20 นาที และถ้าได้ซื้อจักรยานไว้ จะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการเดินทาง
สถานที่พักนักศึกษา
สถานที่พักนักศึกษาในปีการศึกษานี้มีอยู่สองที่ด้วยกัน
คือ
1. Shinshu University International House (国際交流会館)
2. Sun-Heights Apartment
ทั้งคู่ใช้เวลาประมาณ
15-20 นาทีในการเดินไปมหาวิทยาลัย
โดยค่าเช่าของ Sun Heights จะอยู่ที่ประมาณ
() เยน และค่าเช่าของ International House อยู่ประมาณ 4,500
เยน ซึ่งวิธีการชำระเงินค่าเช่าของแต่ละสถานที่ก็จะแตกต่างกันไป
ฉันและเพื่อน ๆ ที่อาศัยอยู่ใน International House จะได้ทำบัญชีธนาคารของธนาคาร
Hachijuni Ginkou (八十二銀行)
ซึ่งเป็นธนาคารที่เปิดอยู่ข้าง ๆ มหาวิทยาลัย
และสามารถใส่เงินเข้าไปในธนาคารให้ทางเจ้าของตึกสามารถถอนจากธนาคารได้โดยอัตโนมัติ
ค่าน้ำค่าไฟและค่าแก๊ส
จะสูงหรือต่ำนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ โดยถ้าอยู่ในฤดูหนาวและต้องเปิดฮีตเตอร์
ซึ่งเป็นฮีตเตอร์แก๊ส ค่าแก๊สก็จะค่อนข้างสูง
จะมีไปรษนีย์มาส่งบิลของค่าใช้จ่ายนี้ไว้ และเราสามารถจ่ายเองได้ที่ร้านสะดวกซื้อ
(เซเว่น ลอสัน ฯลฯ)
หรือสามารถเชื่อมกับธนาคารเพื่อให้จ่ายค่าไฟและแก๊สอัตโนมัติได้
(ทำแบบนี้กับค่าน้ำไม่ได้นะคะ)
ภายในหอจะมีห้องครัวเล็กๆ เตาแก๊สและตู้เก็บของ ห้องน้ำ มีโถส้วม อ่างล้างมือ อ่างอาบน้ำ ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า เฟรมเตียงนอน และระเบียง โดยเราสามารถเช่าฟูกได้ หรือจะซื้อฟูกนอนเองก็ได้เช่นกัน
การเรียน นักเรียนแลกเปลี่ยน
นักเรียนชาวต่างชาติที่มาศึกษาอยู่ที่มหาวทิยาลัยชินชูมีอยู่สองกลุ่มหลัก
ๆ ด้วยกัน คือนักเรียนคณะ (学部生)ซึ่งเป็นการเรียนในคณะของมหาวิทยาลัยร่วมกับนักเรียนคนอื่นๆ
หรือ นักเรียนแลกเปลี่ยน (留学生)โดยโครงการที่ดิฉันได้เข้าร่วมนั้นเป็นโปรแกรมของนักเรียนแลกเปลี่ยน
โดยนักเรียนแต่ละคนจะได้รับการทดสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นก่อนเดินทาง
และเฉลยผลวัน orientation ว่าตนเองอยู่ในระดับใด
และสามารถเข้าคลาสได้ตามระดับภาษาของตน มีตั้งแต่
1.
Class A (ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นเลย)
2.
Class B (มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นเล็กน้อย)
3.
Class C (มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นปานกลาง)
4.
Class D (มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก)
5.
Class E (มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก)
วิชาและเนื้อหาของการเรียนแต่ละระดับจะแตกต่างกันออกไป
โดยคลาส A-C จะเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก
โดยเนื้อหาจะยากขึ้นตามระดับภาษาของคลาสนั้นๆ คลาส D มีเรียนภาญี่ปุ่นเล็กน้อย
แต่คลาส D-E จะสามารถเข้าเรียนคลาสอื่น
ๆ ร่วมกับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยได้
โดยมีข้อแม้ว่าวิชาที่เลือกนั้นต้องอยู่ภายใต้สังกัดของ GEC (Global
Education Center) ของมหาวิทยาลัยชินชู ซึ่งเป็นกลุ่มสตาฟของมหาวิทยาลัยที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องนักเรียนแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะ
ปฐมนิเทศ (Orientation)
มหาวิทยาลัยจะจัดงานปฐมนิเทศสำหรับนักเรียนแลกเปลี่ยนในช่วงก่อนเปิดเทอม
งานปฐมนิเทศน์เป็นงานที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะได้เจอเพื่อน ๆ
และได้เจออาจารย์และสตาฟท่านต่าง ๆ ของทาง GEC แล้ว
อาจารย์จะมาเล่าเกี่ยวกับกฎระเบียบของการอยู่ในมหาวิทยาลัย ประกาศผลสอบวัดระดับ
มีตำรวจของพื้นถิ่นมาพูดเกี่ยวกับกฎการจราจรและมีผู้คนหลายคนมาให้ข้อมูลที่สำคัญอีกมากมาย
นักเรียนจะได้รู้จักกับอาจารย์ที่ปรึกษา และนักเรียนที่สนใจเข้าร่วมเรียนกับนักเรียนประเทศญี่ปุ่นในคลาสปกติของมหาวิทยาลัยจะได้รับเอกสารว่าสามารถลงวิชาไหนได้บ้าง
วิธีการลงต้องทำอย่างไร เป็นต้น จึงเป็นพิธีที่มีความสำคัญมาก
คลาสที่ฉันได้ลงไว้คือ Japanese B ซึ่งประกอบไปด้วย
- Japanese Grammar B
- Japanese Conversation
B
- Japanese Kanji B
และมีคลาสอื่น ๆ
เช่น
- ICP Seminar
- Global Human Resources
- Global Business
ICP และ Global
Business จะสอนเป็นภาษาอังกฤษเสียส่วนใหญ่ แต่ Global Human
Resources จะสอนเป็นภาษาญี่ปุ่นที่ไม่ยากเกินไป เป็นคลาสที่ฉันรู้สึกว่ามีประโยชน์กับการได้รู้จักกับศัพท์ในชีวิตประจำวันหรือศัพท์ในห้องเรียนที่สำคัญเพิ่มขึ้นเยอะมาก
และเป็นคลาสที่ได้เจอกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นเยอะที่สุดเพราะเป็นคลาสที่ค่อนข้างสนับสนุนการร่วมมือกันระหว่างนักเรียนชาวต่างชาติกับนักเรียนญี่ปุ่น
และอาจารย์จะพยายามให้เราได้มีการพูดคุยกันตลอดเวลา
และนักเรียนชาวต่างชาติก็ยังได้ทำงานร่วมกันและได้รู้จักกันมากขึ้นอีกด้วย
กิจกรรมอื่นๆ ในมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมีการจัดกิจกรรมต่าง
ๆ มากมายค่ะ มีทั้งงานครบรอบ และกิจกรรมของชมรมต่าง ๆ
ที่นักเรียนแลกเปลี่ยนสามารถเข้าร่วมได้ค่ะ ในหอจะมีสมุดเล่มที่มีข้อมูลชมรมต่าง ๆ
ในมหาวิทยาลัย รวมถึงข้อมูลการติดต่อด้วยค่ะ มีชมรมที่น่าสนใจเยอะมาก ๆ ค่ะ
อย่างเช่น ชมรมเก็บแอปเปิ้ล ชมรมการละเล่นพื้นบ้าน ฯลฯ และถ้าเพิ่งเข้าไปจะมีการแนะนำชมรม
hanas ซึ่งเป็นชมรมที่นักเรียนญี่ปุ่นได้สร้างขึ้นมาเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับนักเรียนแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะ
มีกิจกรรมทุก ๆ เดือนด้วยค่ะ
เทศกาล
เทศกาลในมัตสึโมโตะที่ได้พบเจอคือ Matsumoto castle illumination ในฤดูหนาวค่ะ แต่นอกจากนี้แล้ว ยังมีเทศกาลน้ำแข็งในช่วงเดือนมกราคม และเทศกาล bon odori ในช่วงเดือนสิงหาคมด้วยค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวและผลไม้ขึ้นชื่อ
เนื่องจากมัตสึโมโต้เป็นเมืองที่อยู่ในนากาโน่
และเป็นเมืองที่ไม่ติดทะเล สิ่งที่จะดังในที่นี่คือผลไม้ค่ะ โดยจะมีองุ่น แอปเปิ้ล
พีช และสาลี่ค่ะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามฤดูกาล ยิ่งมีมากกลางฤดูจะยิ่งราคาถูกค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณรอบมัดสึโมโต้ที่ได้ไป หลัก ๆ จะมีเมืองนากาโน่ (เป็นเหมืองใหญ่ของจังหวัด) ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และเมืองซูวะ เป็นเมืองที่มีทะเลสาบขนาดใหญ่ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจของฉากในภาพยนตร์หลายภาพยนตร์ด้วย เช่น Kimi no Nawa หรือ Your Name อีกด้วย
นั่งรถเมล์ขึ้นเขา คามิโคจิ
ความประทับใจต่างๆ
ประสบการณ์ครั้งนี้ได้สอนอะไรให้ตัวเราหลาย ๆ อย่างเลยค่ะ การเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมใหม่ การได้อยู่ในสภาวะสิ่งแวดล้อมใหม่ และการได้อยู่คนเดียว ตัดสินใจเองทำอะไรเอง ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ มีการตัดสินใจที่ถูกต้องและผิดพลาด ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรได้เยอะค่ะ นอกจากประสบการณ์ที่ได้รับแล้ว เรายังได้รู้จักเพื่อนเยอะมาก ๆ ทั้งเพื่อนจากประเทศญี่ปุ่นและเพื่อนที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศต่าง ๆ ที่เข้ามาอยู่ในโครงการเดียวกัน ที่ทั้งไปเที่ยวด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน จนกระทั่งทุกวันนี้ยังคุยกันอยู่เลยค่ะ นอกจากประสบการณ์ตรงแล้ว การได้อยู่กับเพื่อนเป็นสิ่งที่สอนเราได้เยอะมาก ๆ เลยค่ะ
ไปเที่ยว disney sea