น.ส. ชวิศา กระท้อนกลาง, นายพันธรักษ์ แย้มจันทร์, นายญาณธร บุนนาค

คณะสังคมศาสตร์ ปริญญาตรี ชั้นปีที่ 4

The 7th AC21 Student World Forum 2022 (18-29 กรกฎาคม 2565)

AC21 Student World Forum

AC21 Student World Forum คือโครงการสัมมนาที่จัดขึ้นทุก 2 ปี เพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในระดับนานาชาติ โดยสนับสนุนให้นักศึกษาจากแต่ละประเทศเกิดสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ทัศคติแบบสากล และเพิ่มความเหนียวแน่นของเครือข่าย AC21


The 7th AC21 Student World Forum 2022

ในปีนี้ AC21 ได้จัดโครงการสัมมนาขึ้นภายใต้หัวข้อ "Urban Sustainability under the Covid-19 Attack" เหตุผลของการเลือกธีมนี้คือ วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 (2030 Agenda) ถือเป็นแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับแต่ละประเทศทั่วโลก เมื่อมีประชากรส่วนมากอาศัยอยู่บริเวณเมืองและชุมชน การพัฒนาเมืองและชุมชนที่มีความยั่งยืนจึงเป็นบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030




ประสบการณ์ในการเข้าร่วมการสัมมนาThe 7th AC21 Student World Forum 2022
      ในการเข้าร่วมโครงการสัมมนา นิสิตนักศึกษาจากแต่ละประเทศจะรวมกลุ่มกัน โดยแต่ละกลุ่มจะประกอบด้วย 2 ทีม และแต่ละทีมจะประกอบด้วยนักศึกษา 3 คน ดังนั้นใน 1 กลุ่มจะมีนักศึกษาทั้งหมด 6 คน ซึ่งในปีนี้มีทั้งหมด 4 กลุ่ม งานที่ได้รับมอบหมายคือ
       1. จัดทำรายงานการประเมิน (Evaluation Report) เรื่องเมืองที่ยั่งยืน (Urban Sustainability) จำนวน 2 เล่ม ได้แก่ รายงานการประเมินจากการค้นคว้าในประเทศของตนเอง (ประเทศไทย) 1 เล่ม และรายงานการประเมินจากการเปรียบเทียบข้อมูลจากการค้นคว้าระหว่าง 2 ประเทศ (2 ทีมที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน) 1 เล่ม
       2. การนำเสนอ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 คือวันที่ 7 ของการเข้าร่วมโครงการสัมมนา นำเสนอเกี่ยวกับข้อมูลที่ได้จากการค้นคว้าเปรียบเทียบระหว่าง 2 ชุมชน/เขตในประเทศของตนเอง ภายในระยะเวลา 10 นาที และครั้งที่ 2 คือวันที่ 12 หรือวันสุดท้ายของการเข้าร่วมโครงการสัมมนา นำเสนอเกี่ยวกับข้อมูลที่ได้จากการค้นคว้าเปรียบเทียบระหว่าง 2 ประเทศของสมาชิกกลุ่มร่วมกันภายในระยะเวลา 15 นาที
          3. เขียนคำประกาศเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองและชุมชนที่ยั่งยืนที่มาจากการศึกษาค้นคว้าตลอดโครงการ 

     โครงการสัมมนาประกอบด้วยการบรรยายจากวิทยากร วันหยุดเพื่อให้นักศึกษาได้ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้และศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพื่อมานำเสนอ และในวันสุดท้ายจึงเป็นการประกาศรายชื่อทีมดีเด่นและนักศึกษาดีเด่นที่ได้รับการตัดสินจากกรรมการ ตลอดโครงการยังมีการนัดนอกเวลาเพื่อนำเสนอความคืบหน้าของการค้นคว้าเพื่อนำเสนอ ปรึกษา พูดคุย และทำงานร่วมกันระหว่างทั้ง 2 ทีม โดยได้รับการแนะนำจากอาจารย์ประจำกลุ่มอย่างใกล้ชิด 

 

ความรู้สึกและสิ่งที่ได้เรียนรู้

นางสาวชวิศา กระท้อนกลาง


ประมาณ 2-3 วันก่อนเริ่มโครงการสัมมนา นิสิตประสบปัญหาในการสมัครและเข้าร่วมกลุ่มในแอปพลิเคชัน WeChat จึงรู้สึกวิตกกังวลตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มโครงการ และหาทางติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้จัดงานอย่างไรก็ตาม นิสิตได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่ปรึกษาประจำกลุ่มและเจ้าหน้าที่ผู้จัดงาน ซึ่งต่างก็เต็มใจที่จะสละเวลา 3 ชั่วโมงเต็มให้กับนิสิต แม้ว่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่นิสิตกลับรู้สึกอุ่นใจและขอบคุณทุกคนที่ได้ให้ความช่วยเหลือนิสิต เมื่อถึงวันแรกของการเข้าร่วมโครงการนิสิตจึงเกิดความกล้าที่จะถามในสิ่งที่นิสิตไม่เข้าใจและพยายามมีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้ นิสิตยังได้ใช้เวลาว่างในการศึกษาค้นคว้า ปรึกษากับอาจารย์ที่สามารถให้ความช่วยเหลือกับนิสิตได้เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาการบรรยายและงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำ เนื่องจากนิสิตพบว่าตนเองตีความหมายของเนื้อหาและงานผิดไปตั้งแต่ต้น จึงส่งผลให้นิสิตเกิดความรู้สึกกดดันที่ต้องเริ่มใหม่อยู่หลายครั้ง เพื่อจะทำงานที่มีความท้าทายให้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม นิสิตมีความเชื่อมั่นในตนเองและเพื่อน ๆ ประกอบกับความคิดว่ายังมีเวลาเหลืออยู่ ยังไม่สายที่จะเริ่มต้นใหม่ พวกเราทุกคนจึงช่วยกันหาข้อมูล แลกเปลี่ยน สอบถามอาจารย์ที่ปรึกษาประจำกลุ่มและอาจารย์จากคณะที่เชี่ยวชาญในด้านนี้เพื่อที่จะทำงานออกมาให้ได้อย่างสุดความสามารถ 
     หลังจากที่จบโครงการสัมมนา สิ่งที่นิสิตประทับใจที่สุดคือการได้ทำงานร่วมกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มทั้งเพื่อนจากมหาวิทยาลัยและเพื่อนจากประเทศจีน และอาจารย์ที่ปรึกษาประจำกลุ่มนอกเวลา โดยในการนำเสนอวันสุดท้าย นิสิตได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนจากประเทศจีนเพื่อร่วมกันวิเคราะห์สิ่งที่ควรจะนำเสนอและนำไปใช้เพื่อให้ประเทศของเราสามารถพัฒนาไปสู่เมืองและชุมชนที่มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น นิสิตรู้สึกว่าการได้มีโอกาสทำงานร่วมกับเพื่อนที่มาจากวัฒนธรรมที่แตกต่างสามารถก่อให้เกิดการเรียนรู้ได้ไม่ต่างจากการบรรยาย เพียงแต่อยู่ในอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น เราต่างก็ช่วยเหลือกันทำงานในด้านที่เราถนัดและให้กำลังใจกันและกัน นิสิตรู้สึกดีใจที่ได้ทุ่มเทให้กับการเข้าร่วมโครงการสัมมนานี้อย่างเต็มที่ รวมถึงได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เปิดโอกาสให้นิสิตได้เรียนรู้จากหลายแหล่งที่แตกต่างกัน ขอบคุณทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่เปิดโอกาสให้นิสิตได้เข้าร่วมโครงการสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อน ๆ และอาจารย์ที่ได้ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือนิสิตตลอดระยะเวลาการเข้าร่วมโครงการ

นายพันธรักษ์ แย้มจันทร์



          ในช่วงเวลาสองสัปดาห์ของโครงการ ในเกือบทุกวันจะมีการบรรยายให้ความรู้ต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เราได้มองเห็นและเข้าใจความหมายของความยั่งยืนมากขึ้น ได้รู้จักเป้าหมายของ SDGs โดยเฉพาะในเป้าหมายที่ 11 ที่มีเป้าหมายที่เมืองและถิ่นฐานมนุษย์อย่างยั่งยืน (Sustainable cities and communities) เพราะว่าเป็นธีมหลักของโครงการ ได้รู้ว่าการบริหารจัดการเมือง การพัฒนาเมืองแบบไหนถึงจะทำให้เกิดความยั่งยืนขึ้นบนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด ได้มองการพัฒนาเมืองหรือประเทศอย่างเป็นองค์รวมมากขึ้นจากเดิมที่เราคิดว่าการบริหารเมืองในแต่ละด้านนั้นมันแยกเป็นส่วนๆแต่แท้จริงแล้วทุกส่วนล้วนมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งหากเรามีการบริหารหรือพัฒนาอย่างยั่งยืนก็จะทำให้ประเทศและโลกของเราน่าอยู่มากขึ้นตามเป้าหมายของ SDGs นอกจากนี้ยังได้ฝึกทำ รายงานการประเมินผล (Evaluation Report) ของพื้นที่ในกรุงเทพ 2 พื้นที่เพื่อที่จะนำไปเสนอในที่ประชุมรวม ซึ่งพอได้ทำจริงก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น วิธีการในการเก็บข้อมูล ลักษณะของพื้นที่ในกรุงเทพในส่วนของสัมพันธวงศ์และจตุจักร การทำงานเป็นทีมและได้ฝึกการนำเสนองานเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย หลังจากกนำเสนอผลของรายงานการประเมินภายในประเทศเสร็จแล้วก็จะต้องนำข้อมูลที่เราได้มาในส่วนนี้ไปเปรียบเทียบกับทีมจีนที่อยู่กลุ่มเดียวกันเพื่อที่จะนำไปเสนอในการประชุมรวมในครั้งสุดท้าย ซึ่งก็ทำให้เราเห็นถึงความแตกต่างของการบริหารจัดการบ้านเมืองของ 2 ประเทศที่ชัดเจน เห็นถึงความเข้มงวดของประเทศจีน เห็นถึงมาตราการจัดการของประเทศจีนว่าต่างจากประเทศไทยอย่างไร ได้เห็นวัฒนธรรมของประเทศในมุมมองที่ลึกกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเป็นการได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ที่เป็นเพื่อนต่างชาติอีกด้วย
           
         ผมรู้สึกดีใจแล้วก็ภูมิใจที่ได้ร่วมโครงการนี้ได้พัฒนาตัวเองในหลายด้าน ๆ รวมถึงด้านภาษาอังกฤษ ถึงแม้ว่าในตอนแรกนั้นรู้สึกกดดันอย่างมากเพราะว่าเป็นงานที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนบวกกับความสามารถด้านภาษาอังกฤษของตัวเองที่ด้อยกว่าคนอื่นในกลุ่มจึงทำให้เครียดและกดดันตัวเองอยู่หลายวัน แต่พอเวลาผ่านไปสักพักเราได้ความรู้จากการเข้าฟังบรรยายในแต่ละวันทำให้มีความรู้มากขึ้นในเรื่องนี้ ได้พูดคุยกับเพื่อนในทีมและการให้การสนับสนุนของอาจารย์หลาย ๆ ท่านจึงทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้นจนสามารถทำงานจนจบโครงการได้ ซึ่งก็รู้สึกขอบคุณเพื่อนและอาจารย์ที่คอยสนับสนุนเสมอมา และรู้สึกขอบคุณทางมหาวิทยาลัยที่ให้โอกาสได้เข้ามาร่วมโครงการ 7th AC21 Student World Forum 2022 ในครั้งนี้

นายญาณธร บุนนาค



        ในช่วงแรกของการเข้าร่วมกิจกรรม 7th AC21 Student World Forum 2022 ผมยังไม่ค่อยเข้าใจคอนเซป ของคำว่า ‘sustainability’ มากนัก แต่หลังจากที่ได้เข้าซูมเพื่อไปฟังการบรรยายของศาสตรจารย์จากมหาวิทยาลัย ประเทศต่าง ๆ ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับธีมหลักของกิจกรรมครั้งนี้  ซึ่งได้เปิดมุมมองของผมให้กว้างขึ้นอย่างมาก เมื่อต้องเก็บข้อมูลแล้วนำเสนอภายในทีมแก่อาจารย์ประจำกลุ่มและเพื่อนอีกทีมหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่เคยนำเสนอ หัวข้อวิชาการต่อหน้าคนต่างชาติมาก่อนเลยตื่นเต้นและเกร็งพอสมควร แต่การนำเสนอก็ผ่านไปได้ด้วยดี พร้อมกับคำชมจากอาจารย์ในเรื่องของการนำเสนอ และอาจารย์ได้ให้ข้อเสนอแนะสำหรับการแก้ไขรายงาน ตอนนำเสนอครั้งถัดไป ในการหาข้อมูลพวกเราได้พยายามหาข้อมูลจากการสัมภาษณ์ของคนท้องถิ่นที่ ได้รับผลกระทบจากโควิด แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ประกอบกับข้อมูลที่หาได้จากออนไลน์เพื่อนำมาสรุป ในรายงานที่ต้องนำเสนอ

        ตอนที่กิจกรรมเริ่มผมรู้สึกกดดันมาก ๆ เพราะไม่เคยร่วมกิจกรรมแบบนี้มาก่อน แต่พอเข้ากิจกรรม การฟังบรรยายไปเรื่อย ๆ ผมเริ่มปรับตัวได้กับสภาพแวดล้อมของกิจกรรมนี้ได้ และเมื่อจบงานการนำเสนอ ครั้งสุดท้ายรู้สึกว่า เวลา 2 อาทิตย์ก็ผ่านไปเร็วมาก ๆ ในตอนท้ายมีช่วงการมอบบรางวัลประเภทต่าง ๆ แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ ในตอนแรกผมคิดว่า คงไม่ได้รางวัลอะไรอยู่แล้ว แต่พอเห็นชื่อของผมอยู่หนึ่ง ในผู้ที่ได้รางวัลประเภทนักเรียนดีเด่น ผมรู้สึกดีใจและตกใจมาก ๆ ที่ได้รางวัลนี้ สุดท้ายแล้วผมคิดว่า หากเพื่อนร่วมทีมของผมไม่ได้มาชักชวนผมให้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้คงไม่ได้ประสบการณ์ดี ๆ และหายาก แบบนี้ และทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ได้มอบกิจกรรมนี้แก่พวกเรา